ฟาร์มเพาะวาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และ อาหารท้องถิ่น
ฟาร์มวาซาบิไดโอป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในจังหวัดนากาโน่และทั่วประเทศญี่ปุ่นเพราะความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ธารน้ำใสบริสุทธิที่ไหลรินมาจากเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นลงสู่เมืองอะซูมิโน่ช่วยทำให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกวาซาบิที่มีรสเผ็ดอร่อยและดีต่อสุขภาพ ทุกๆปีฟาร์มแห่งนี้ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวหลายแสนคนที่หลั่งไหลมาจากทั้งในญี่ปุ่นและจากต่างประเทศ เพื่อมาสัมผัสประสบการณ์ตรงในฟาร์มเพาะวาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและลิ้มลองวาซาบิแท้สดๆ นอกจากนี้ยังมีสินค้ารสวาซาบิอื่นๆ เช่น เบียร์และไอศครีมอีกด้วย
ฟาร์มวาซาบิไดโอ วาซาบิ และ ของดีประจำท้องถิ่นอื่นๆ
อะซูมิโน่ ยังมีอาหารท้องถิ่นหลากหลายอย่าง ตั้งแต่อาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโซบะ จนถึงผักภูเขาที่เลือกเก็บมาอย่างสดใหม่ ผลผลิตที่ได้มาจากที่นี่ที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ได้แก่ ผลไม้หลายหลากชนิดที่มีให้เลือกเก็บในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อมาเยี่ยมชมสวนแอปเปิ้ล คุณจะได้ทานแอปเปิ้ลหวานฉ่ำกรอบอร่อยที่เด็ดสดๆ จากต้น หรือ เก็บบลูเบอร์รี่ลูกอวบฉ่ำเต็มคำ กิจกรรมที่เป็นที่นิยมอีกอย่างหนึ่งก็คือ การทำเส้นโซบะด้วยมือของคุณเอง แน่นอนว่าคุณจะได้ทานฝีมือตัวเองด้วย
เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นอันสูงตระหง่าน, ทัศนียภาพของทุ่งนา, บ่อน้ำพุร้อนผุดพราย
เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ชนบทญี่ปุ่นอันแสนคลาสสิค โดยมีเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นสูงเสียดฟ้ายืนตระหง่านเหนือนาข้าวและทุ่งโซบะที่อยู่เบื้องล่าง สำหรับผู้ที่สนใจวิถีชีวิตชนบทยุคใหม่ขอแนะนำให้มองหาศิลปะนาข้าว คุณสามารถเพลิดเพลินเต็มอิ่มกับสวนสนุกธรรมชาติเหล่านี้ในเมืองอะซูมิโนะและบริเวณรอบๆ ได้ด้วยการปั่นจักรยาน, เดินเล่น, เดินป่า, เดินเขา หรือแม้แต่ขับรถเล่นไปเรื่อยๆ
หลังจากที่สนุกกับการผจญภัยจนจุใจแล้ว อย่าลืมไปผ่อนคลายความเหนื่อยล้าของร่างกายที่บ่อน้ำพุร้อนซึ่งมีอยู่นับไม่ถ้วน บ่อน้ำพุร้อนโฮตากะและบ่อน้ำพุร้อนอื่นๆ อีกมากมายรอคุณอยู่
ศาลเจ้าโฮตากะ
ศาลเจ้าโฮตากะ เป็นสถานที่สักการะอันสงบสันโดษแวดล้อมด้วยต้นสนและต้นสนญี่ปุ่น อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟโอตากะ ทุกๆเดือนกันยายน ศาลเจ้าโฮตากะจะจัดเทศกาลอันยิ่งใหญ่สวยงามเพื่อบูชาเทพเจ้าของชุมชน และบรรพบุรุษแห่งท้องทะเล
ในศตวรรษที่ 10 ศาลเจ้าแห่งนี้ก็เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั่วประเทศญี่ปุ่นแล้ว
บริเวณทางเข้าศาลเจ้ามีเสาโทริอิไม้ขนาดใหญ่ อาคารแรกที่จะได้เห็นคือ “คากุราเดน” ซึ่งเป็นอาคารสำหรับแสดงการร่ายรำอันศักดิ์สิทธิ์ อีกด้านหนึ่งจะเป็นศาลาสำหรับให้ผู้ที่มาสักการะบูชานำของมาถวายและสวดมนต์ ด้านหลังศาลานี้มีอาคารศักดิ์สิทธิ์หลังเล็กที่เรียกว่า “ฮงเดน” อีกสามหลังสำหรับประดิษฐานเทพเจ้า แต่ละฮงเดนจะถูกสร้างใหม่ทุกๆ 20 ปี เช่นเดียวกับฮงเดนของศาลเจ้าอิเซะจินกุ ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่น
ปั่นจักรยาน
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกว่าจะพิชิตยอดเขาเหล่านี้ หรือเพียงแค่เพลิดเพลินกับการชมทัศนียภาพแสนประทับใจของขุนเขา การขี่จักรยานไปทั่วเมืองอะซูมิโน่และท่องไปในธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเมือง เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้ชื่นชมความสวยงามของขุนเขา ทั้งยังสามารถหยุดแวะชมศาลเจ้าและสถานที่สำคัญอื่นๆ ในท้องถิ่นได้ด้วย ที่นี่มีบริการรถจักรยานเช่า, แชร์จักยาน, ทัวร์พร้อมไกด์ และแม้แต่การขี่จักรยานทางไกลไปถึงฮะกุบะ
คาเฟ่ & พิพิธภัณฑ์ศิลปะ
อะซูมิโน่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเมืองที่มีคาเฟ่สุดเก๋, เบเกอรี่ชั้นเลิศ และเหล้าสาเกท้องถิ่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะ, ร้านอาหาร, คาเฟ่หลายแห่งตั้งอยู่รอบๆ พื้นที่น้ำพุร้อนโฮตากะ
อะซูมิโน่เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเกือบ 20 แห่ง จึงถือเป็นสถานที่พิเศษในญี่ปุ่นที่รู้จักกันในนามของเมืองแห่งศิลปะ กลุ่มของพิพิธภัณฑ์นี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “อะซูมิโน่ อาร์ท ไลน์” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิพิธภัณฑ์ศิลปะโรคุซันซึ่งมีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นที่จัดแสดงผลงานประติมากรรมญี่ปุ่นอันประณีตงดงาม และเป็นจุดถ่ายรูปชั้นยอดเพราะมีสวนสวยและส่วนหน้าของอาคารที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าเก่าแก่, รูปปั้นผู้พิทักษ์และงานศิลปะอื่นๆ ทั่วทั้งเมืองอะซูมิโน่รอให้คุณได้มาชื่นชม
อยู่ใกล้มัตสึโมโต้ และ ฮะกุบะ
ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงจากโตเกียว นอกจากนี้อะซูมิโน่ยังตั้งอยู่ใกล้ มัตสึโมโต้, ทากายาม่า, อุทยาน “ลิงภูเขา”จิโกกุดานิ, ฮะกุบะ และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆอีกด้วย